

วันนี้ (10 ตุลาคม 2569) เวลา 15.45 น. ที่ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี คณะมวลชน องค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสี่อำเภอของจังหวัดสงขลา เข้าพบ พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา เพื่อแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ พร้อมแนะนำตัวหารือการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้



โดย นาย สมบูรณ์ จิตเพ็ญ ประธานองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดนราธิวาส ผู้แทนกลุ่มเสื้อเขียวฯ ได้กล่าวแสดงความยินดี พร้อมขอบคุณกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาโดยตลอด ที่ผ่านมาล้วนทำงานร่วมกัน มีความคุ้นเคยเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน พร้อมหวังให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้การสนับสนุนการทำงานของกลุ่มเสื้อเขียวต่อไป เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้


ด้าน พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจ และความเสียสละ ขอบคุณน้ำใจ มิตรไมตรี ของพี่น้องมวลชนเสื้อเขียวที่มอบให้เจ้าหน้าที่ด้วยดีเสมอมา พร้อมชื่นชม 5 ยุทธศาสตร์ของการดำเนินการขับเคลื่อนต่อเนื่องใน 290 ศูนย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทักษะอาชีพ องค์ความรู้ สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่พี่น้องในพื้นที่ พัฒนาต่อยอดให้เข้าถึงทุกหมู่บ้าน โดยเฉพาะการทำให้ชุมชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นในปีนี้จึงต้องการให้หน่วยงานและผู้นำท้องที่ กำนัน ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ให้ช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทันทีเมื่อได้รับการประสานร้องขอ หากมีคำแนะนำสิ่งใดขอให้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ได้เสมอ เพื่อพี่น้องประชาชน “กินดี กินอิ่ม นอนอุ่น ”



ทั้งนี้ องค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) คือแบบอย่างขององค์กรภาคประชาชนที่ดี ในการสะท้อนปัญหาและร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนตรงความต้องการในทุกชุมชน ทุกหมู่บ้าน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง สามารถพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านกิจกรรมและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเกิดจากพลังความร่วมมือ ความสามัคคีและความรักของคนในชุมชน ที่อยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง


