
จากสันติสุขสู่ความรุนแรงที่ไม่มีใครต้องการ จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นดินแดนที่มีทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่ร่วมกันมายาวนานด้วยความเคารพและเข้าใจซึ่งกันและกัน ทุกคนต่างเคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรมและศาสนา ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข แต่นับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เข้ามาทำลายความสงบสุขที่มีมา พวกเขาใช้ความรุนแรงสร้างความหวาดกลัว โดยไม่เลือกว่าเหยื่อจะเป็นชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ทั้งพระสงฆ์ ครู อุสตาซ และประชาชนทั่วไป ต่างต้องตกเป็นเหยื่อของความโหดร้ายนี้
กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมุ่งทำลายรากฐานสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่ชายแดนใต้ ผ่านการใช้ความรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อสร้างความหวาดกลัวและบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันมายาวนาน เป้าหมายของพวกเขาคือทำให้ประชาชนไม่กล้าประกอบอาชีพ ไม่กล้าใช้ชีวิตตามปกติ และสูญเสียความไว้วางใจกันจนสังคมอ่อนแอ ตลอดปี 2568 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ทั้งลอบเผากล้องวงจรปิดในอำเภอกะพ้อ ทำลายเครื่องจักรของบริษัทเอกชนในนราธิวาส ลอบยิงและวางระเบิดขณะประชาชนเดินทางไปละหมาด รวมถึงลอบวางระเบิดบริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลาในช่วงประเพณีชักพระ นอกจากนี้ยังมีการปล้นร้านทองในห้างบิ๊กซีสุไหงโก-ลก และลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามฯ หน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เพียงสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ แต่ยังบั่นทอนความไว้วางใจระหว่างพี่น้องประชาชนที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมายาวนาน
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันออกมาต่อสู้ และปฏิเสธความรุนแรงจากกลุ่ม BRN เพื่อที่เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข โดยร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล ร่วมป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และไม่ต้องกลัวผลกระทบจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีแต่ความโหดร้าย ใช้ความรุนแรงในการกดขี่พี่น้องประชาชนตลอดมา เพราะพลังของผู้บริสุทธิ์เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่