วันพฤหัสบดี, 28 พฤศจิกายน 2567

“เติมกำลังใจ ด่านหน้า ระนอง-พังงา” นิพนธ์ เยี่ยม บุคลากรทางการแพทย์ ผู้บริหารท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง วอน ทุกภาคส่วนประสานความร่วมมือกัน เพื่อนำพาประเทศผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

   เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2564  ที่โรงพยาบาลระนอง อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมรับฟังการปฎิบัติงาน ขั้นตอนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ปัญหาอุปสรรค จากนายแพทย์อรุณ สัตยาพิศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระนอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง และทีมแพทย์ พยาบาลจังหวัดระนอง

พร้อมกันนี้ รมช.มท.ได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ประกอบด้วย ชุด PPE และหน้ากากอนามัย และบำรุงขวัญกำลังให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการจัดการผู้ป่วย COVID-19 ในพื้นที่ จ.ระนอง ซึ่งการลงพื้นที่มีการปฏิบัติที่เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด

  ด้านนพ.อรุณ ผอ.รพ.ระนอง ได้เปิดเผยถึง ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในพื้นที่ว่า ขณะนี้ จังหวัดระนองมียอดสะสม 3,109 ราย ติดเชื้อใหม่ 94 ราย(ข้อมูล ณ วันที่ 10 ส.ค.64) และวันนี้ 11 ส.ค.64 คาดว่ามีผู้ติดเชื้อประมาณ 70 ราย และยังมีบุคลากรทางการแพทย์ ที่ป่วยรักษาอาการติดเชื้อโควิดอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 10 ราย โดยได้รับเชื้อจากการปฏิบัติงาน พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวขอบคุณรมช.มท.และคณะที่มาเยี่ยมเติมขวัญกำลังใจครั้งนี้ อีกด้วย

จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ ได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดพังงา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรด่านหน้าจัดการสถานการณ์โควิด ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล อสม. ฝ่ายปกครอง  ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลเตรียม อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธา ผวจ.พังงา, ส.ส.กันตวรรณ ตันเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.พังงา และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

นายนิพนธ์ รมช.มท. กล่าวว่า การเตรียมการเพื่อรองรับการระบาดของโควิด-19 ในส่วนของจังหวัดระนองและจังหวัดพังงานั้นได้มีการเตรียมการและวางแผนไว้เป็นอย่างดี และในส่วนของจังหวัดพังงาเอง ก็เป็นจังหวัดลำดับท้ายๆของการมียอดผู้ติดเชื้อฯ ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ก็ยังคงต้องติดตามและควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพราะความรุนแรงของการแพร่ระบาดจากพื้นที่จังหวัดควบคุมเข้มข้น และพื้นที่ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงยังคงน่ากังวล บุคลากรทางการแพทย์ พี่น้องฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ผู้บริหารท้องถิ่นนั้น เป็นด่านหน้าสำคัญที่มีความเสี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง และยังถือเป็นใจกลางสำคัญของการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ในทุกพื้นที่ ซึ่งการทำงานเพื่อจัดการโควิดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเกือบ 2 ปี นั้นรัฐบาลและพี่น้องประชาชนต่างทราบดีว่าทุกท่านได้เสียสละ ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตไปได้โดยเร็ว ซึ่งต่อไปนี้ยังไม่ทราบระยะเวลาของการสิ้นสุดการระบาดว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ ดังนั้น ทุกฝ่ายรวมถึงพี่น้องประชาชนจะต้องร่วมมือกันเพื่อป้องกันไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็นใจกลางสำคัญนี้ต้องแบกรับภาระมากจนเกินไป การเดินทางมาในวันนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจสรรพกำลังทุกฝ่ายเพื่อให้ทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนได้ต่อไปอย่างเข้มแข็ง และมีกำลังใจ รัฐบาลพร้อมดูแลสนับสนุนเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อตั้งเป้าลดการสูญเสียจากโควิด-19″