วันเสาร์, 1 พฤศจิกายน 2568

”ศรัทธา-สามัคคี“ มพศ.จชต. ร่วมกิจกรรมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดบูรพาราม ท่ามกลางบรรยากาศ การไว้อาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

 วันนี้ (31 ตุลาคม 2568) เวลา 12.05 น. ที่ วัดบูรพาราม ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี พลเอก มณี จันทร์ทิพย์ นายกสมาคมเพื่อความมั่นคงพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (มพศ.จชต. ) / เลขาธิการศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อร่วมสมทบทุนจตุปัจจัยบูรณะซ่อมแซมปรับปรุงเสนาสนะภายในวัด ให้มีความสมบูรณ์ รวมถึงเพื่อเป็นการสนับสนุนงานด้านพระพุทธศาสนาทั้ง 6 ด้าน อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นพื้นที่ในการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องพุทธศาสนิกชนต่อไป โดยมี พระครูอุดมธรรมาธร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี / เจ้าอาวาสวัดปิยาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พี่น้องพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมในพิธีด้วยความอบอุ่น

โดยจตุปัจจัยที่รวบรวมได้ครั้งนี้คือ 392,680 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสองพันหกร้อยแปดสิบบาทถ้วน) และหากผู้มีจิตศรัทธาต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งแห่งสายธารบุญครั้งนี้สามารถร่วมบุญเพิ่มเติมได้ที่ : บัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “บูรพาราม” เลขที่บัญชี 907-1-00959-9

 โอกาสนี้ พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ หรือ “ท่านขาว” เจ้าอาวาสวัดบูรพาราม เปิดเผยว่า การจัดพิธีทอดกฐินสามัคคีในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบหกปีที่วัดบูรพารามได้จัดงานทอดกฐินขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ในปีก่อน ๆ ไม่สามารถจัดได้ เนื่องจากมีพระจำพรรษาไม่ครบห้ารูปตามพระวินัยกำหนด แต่ปีนี้ด้วยแรงศรัทธาและความร่วมแรงร่วมใจจากวัดใกล้เคียง ที่ได้เมตตาส่งพระมาจำพรรษาจนครบ ทำให้วัดบูรพารามสามารถฟื้นฟูประเพณีอันงดงามนี้ได้อีกครั้ง

 พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในวาระนี้ นับเป็นช่วงเวลาแห่งความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง การจัดพิธีทอดกฐินครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนา แต่ยังเป็นการ อุทิศและถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระองค์ท่าน ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ต่อพสกนิกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่สมาคมเพื่อความมั่นคงพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (มพศ.จชต.) ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับพี่น้องชาวพุทธในพื้นที่ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและศรัทธา ภาพแห่งความสามัคคีในครั้งนี้จึงเปี่ยมด้วยความหมาย ไม่เพียงเป็นพิธีกรรมทางศาสนา หากสิ่งนี้คือ “การฟื้นคืนของกำลังใจ” ที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของชุมชน และความจงรักภักดีต่อพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้เป็นดั่งแสงแห่งธรรม ที่ยังส่องนำทางให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าดำรงอยู่ในความดีงามตลอดไป