วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

รับแล้วไม่เป็นไร กาเบอร์6 ! “อั๋น ภูวดล” สวนกระแสคนโกง…กระตุ้นโค้งสุดท้าย

วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 อั๋น ภูวดล วงษ์โสภณากุล ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข6 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ปล่อยขบวนรถหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้ง อาทิตย์ที่14 พฤษภาคม 2566 นี้โดยรถแห่ที่ใช้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งวันนี้ มีทั้งสิ้น 10 คัน และรถโมบายอีก 1 คัน

สำหรับป้ายหาเสียงในวันนี้ อั๋น ภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 6 ได้ใช้แคมเปญใหม่ เป็นกลยุทธ์หาเสียงในช่วงโค้งสุด ด้วยการ การระบุอย่างชัดเจนว่า “รับแล้วไม่เป็นไร กาเบอร์6 รวมไทยสร้างชาติ” ซึ่ง นายภูวดล ได้อธิบายถึงสาเหตุการใช้แคมเปญดังกล่าว เนื่องจาก 2-3 วันที่ผ่านมาได้รับเสียงสะท้อนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า เกิดการซื้อเสียงของผู้สมัครบางพรรคในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งถือว่าขัดกับกฎหมาย แต่ในเมื่อวันนี้เจ้าหน้าที่ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ประชาชนก็ต้องร่วมมือกับพรรคการเมือง คือ หากรับแล้วก็ไม่ต้องเลือก แต่จงเลือกคนที่จะทำงานการเมืองให้กับประเทศชาติเข้ามาแทน

โดย อั๋น ภูวดล กล่าวย้ำ ว่า ในฐานะผู้สมัครหมายเลข6 มีความมุ่งมั่น และมีความพร้อมจะทำงานทางการเมือง จึงขอใช้ความตั้งใจของตัวเอง แลกกับความไว้วางใจจากประชาชน ขออาสาเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประชาชน

“เขาใช้การเมืองแบบอนาธิไตย เลยต้องออกแคมเปญนี้ คนพื้นที่เขารู้อยู่แล้ว ว่ารับอะไร มีการจ่ายกันแล้ว จะรับเป็นอะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องกังวล ขอแค่มั่นใจว่าคนที่ จะเข้ามาแก้ปัญหาได้ คือรวมไทยสร้างชาติเท่านั้น”

นายภูวดล กล่าวด้วยว่า การเดินสายหาเสียงทุกวัน ไม่เคยเหนื่อย แต่สนุก เพราะมีความพร้อม มีความตั้งใจที่จะทำงานการเมืองแบบสุจริต แบบนักการเมืองรุ่นใหม่ จึงยืนยันได้ว่า หมายเลข6 และพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงแน่นอน

“ผมเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ถ้ากระดุมเม็ดแรกผมแปดเปื้อน หรือถูกติดโดยคนไม่หวังดี เราก็ไม่ต้องคาดหวังกับการเมืองสุจริต การเมืองจะสุจริตไม่ได้ ถ้านักการเมืองทุจริต ฉนั้นมั่นใจได้ว่าผม อั๋นภูวดล หมายเลข6 ไม่ซื้อเสียงแน่นอน แต่คนอื่นผมไม่ทราบ…”

ด้านนายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี ซึ่งให้การสนับสนุน อั๋น ภูวดล วงษ์โสภณากุล ได้เดินทางมาให้กำลังใจหลานในการปล่อยขบวนรถหาเสียงโค้งสุดท้ายในวันนี้ด้วย พร้อมกับฝากย้ำถึง การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยว่า มีความสำคัญมาก ที่ประชาชนจะเลือกคนที่จะมาปกครอง ยาวถึง 4 ปี หากขายเสียงก็จะได้การเมืองแบบอดีตอีก ดังนั้นขอให้ประชาชนตั้งใจดูที่นโบาย แต่ละพรรค ที่จะนำสู่ไปการปฏิบัติ ดูความตั้งใจของผู้สมัครแต่บะคน มั่นใจว่าตอนนี้พื้นที่เขต6 ประชาชนคงทราบแล้วใครคือคนที่เหมาะสม ใครที่ใช้เงินซื้อเสียง หรือใครขายเสียง ก็ต้องถือว่ามีความผิดโทษจำคุกทั้งหมด เช่นเดียวกับ กกต. หากละเว้นก็มีโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นกัน