
จากเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 23.10 น. ได้ยินเสียงคล้ายระเบิด บริเวณด้านหลังสถาบันปอเนาะ มอ์หัด อัตตัรบียาดุลฮะดีซะห์ หมู่ที่ 4 ตำบลบางเก่า อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี


ต่อมาวันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการพิสูจน์ทราบพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ทราบว่าเป็นพื้นที่ที่ผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้ในการฝึกร่างกายและหลบซ่อนพักพิง เจ้าหน้าที่จึงพยายามกระชับวงล้อมเพื่อควบคุมพื้นที่ และสามารถควบคุมตัว นาย ซูรฮาฟีซี (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นบุคคลมีหมายจับ ป.วิอาญา ที่ จ.223/2568 ลงวันที่ 16 กันยายน 2568 เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบยิง นายนิตย์ชัย หมานแก้ว เสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 และสามารถตรวจยึดปืนพกได้ จำนวน 1 กระบอก และได้มีผู้ก่อเหตุรุนแรง วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในสถาบันปอเนาะ ผู้นำชุมชนและครูสอนศาสนา จึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรียน เจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนย้ายน้องนักเรียนออกจากพื้นที่ดังกล่าว ไปยังโรงเรียนบ้านป่าทุ่ง ตำบลบางเก่า อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัย พร้อมทั้งดูแลจัดพื้นที่ละหมาดและอาหารให้กับน้องนักเรียนเป็นอย่างดี โดยภายหลังเคลื่อนย้ายน้องนักเรียนออกสถาบันปอเนาะเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมพื้นที่ เพื่อทำให้พื้นที่ปลอดภัย


ขณะเข้าควบคุมพื้นที่ได้มีผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงทำการยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง เป็นเหตุให้ผู้ก่อเหตุรุนแรง เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายมูฮัมหมัด (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี มีหมายจับ ป.วิ อาญา ที่ จ.178/66 ลง 3 เมษายน 2566 เหตุยิง อาสาสมัครทหารพราน นิกร สมบัติทอง (เสียชีวิต) พื้นที่ หน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่ 41 หมู่ที่ 2 ตำบลวังพญา อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ คือ ดาบตำรวจ สมศักดิ์ นาคเสน ตำแหน่ง หัวหน้าชุดปฏิบัติการ EOD กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 444 ถูกนำส่งตัวเข้ารักษา ณ โรงพยาบาลยุพราชสายบุรี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


ล่าสุดเจ้าหน้าที่อยู่ควบคุมพื้นที่และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำผู้ก่อเหตุรุนแรง เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป และเตรียมเคลื่อนย้ายน้องนักเรียนเดินทางกลับสู่สถาบันปอเนาะดังเดิม หลังจากเจ้าหน้าที่ทำให้พื้นที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว


ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือและขอขอบคุณพี่น้องประชาชนในการร่วมกันสอดส่องดูแลพื้นที่ เมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร 1341 หรือแจ้งต่อ หน่วยเฉพาะกิจจังหวัด ในพื้นที่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

