วันเสาร์, 8 พฤศจิกายน 2568

รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน กรณีการตรวจยึด อาวุธปืน เอ็ม 16 เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 68 ในพื้นที่ ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี.

จากกรณีที่หน่วยงานความมั่นคง ได้เข้าดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ ตำบลทุ่งพลา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 และได้เชิญตัว นายรอซะ (สงวนนามสกุล) มาดำเนินกรรมวิธีซักถามที่ ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหารอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
.

โดยวันนี้ ( 8 พฤศจิกายน 2568 ) พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงรายละเอียด ดังนี้

 จากผลการซักถาม นายรอซะ (สงวนนามสกุล) ให้การยอมรับว่า ได้ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนในการรับ–ส่งอาวุธปืนและวัตถุระเบิดให้กับสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ต่อมา เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากการซักถาม นำไปสู่การชี้จุดซุกซ่อนอาวุธปืนและสิ่งของ บริเวณสวนยางพารา บ้านเกาะตา หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งพลา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จำนวน 2 จุด ตรวจยึดได้ดังนี้
1. อาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก
2. ซองกระสุน จำนวน 3 ซอง
3. เสื้อใส่ซองกระสุน จำนวน 1 ตัว
4. ลูกระเบิดขว้าง TYPE 86 จำนวน 1 ลูก
5. กระสุนปืนขนาด 5.56 มิลลิเมตร จำนวน 30 นัด
6. กระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว จำนวน 50 นัด

 จากการตรวจสอบ อาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 ที่ตรวจยึด พบว่า เป็นอาวุธที่ถูกแย่งชิงจากเหตุลอบยิง อาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอกรงปินัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2549

ทั้งนี้ ผลการตรวจพิสูจน์เบื้องต้น ตรวจพบว่า อาวุธปืนกระบอกดังกล่าว เคยถูกใช้ยิงในคดีอื่นที่มีประวัติเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จำนวน 7 คดี ได้แก่
1. วันที่ 11 กันยายน 2561 คนร้ายยิงเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4303 เสียชีวิต 2 นาย
ขณะออกลาดตระเวนถนนภายในหมู่บ้าน ระหว่างบ้านดอนนา–บางทัน หมู่ที่ 5 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
2. วันที่ 23 กรกฎาคม 2562 คนร้ายยิงและขว้างระเบิด เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่และราษฎรเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย เหตุเกิดฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล ถนนทางหลวงชนบท ปัตตานี 2013 (ถนนบ้านกอแลปิเละ) หมู่ที่ 7 ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
3. วันที่ 4 สิงหาคม 2562 คนร้ายวางระเบิดบริเวณตู้เอทีเอ็ม ธนาคารอิสลาม ใกล้โรงเรียนมูลนิธิอาซิซสถาน และยิงก่อกวนบริเวณถนนสาย 409 (นาเกตุ–นาประดู่) หมู่ที่ 7 ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
4. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 คนร้ายยิงใส่จุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านทางลุ่ม หมู่ที่ 4 ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย
5. วันที่ 6 เมษายน 2564 คนร้ายลอบวางระเบิดและยิงนายรอมลี วาเงาะ เสียชีวิต เหตุเกิดถนนสายบ้านคลองช้าง–บ้านควนลาแม หมู่ที่ 4 ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
6. วันที่ 14 เมษายน 2566 คนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนก่อเหตุที่สถานีรถไฟวัดช้างให้ หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งพลา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ก่อนหลบหนีไปเส้นทางช้างให้–แม่ลาน ขณะนั้น
ดาบตำรวจ วชิรพันธ์ แสงสว่าง ได้ยิงตอบโต้ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
7. วันที่ 22 มีนาคม 2567 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านพักและลอบวางเพลิงบริเวณ โฮมสวีทโฮม รีสอร์ท เลขที่ 173/44 หมู่ที่ 6 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ไม่มีผู้เสียชีวิต
และได้รับบาดเจ็บ

 จากกรณีดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มิได้นิ่งนอนใจในการติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้ง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม และยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำงานที่ก่อให้เกิดความคืบหน้าที่สำคัญในการสืบสวนและขยายผล ทางคดีความมั่นคง ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจยึดอาวุธปืนและวัตถุระเบิดที่เชื่อมโยงกับการก่อเหตุหลายคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธี โดยพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม และให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองตามกระบวนการของกฎหมาย รวมถึงขอความร่วมมือ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ เบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ