

สาขาวิชานาฏศิลป์และการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มรภ.สงขลา จัดพิธีไหว้ครูและครอบครูนาฏศิลป์ไทย เทียบเชิญ อาจารย์ไพฑูรย์ เข้มแข็ง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประกอบพิธี เหล่าชาวนาฏศิลป์พร้อมใจร่วมแสดงความกตัญญูกตเวที ระลึกถึงพระคุณครูเทพและครูมนุษย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา



วันที่ 10 สิงหาคม 2568 ผศ.พิเชษฐ์ จันทวี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เป็นประธานในพิธีไหว้ครูและครอบครูนาฏศิลป์ไทย จัดโดยสาขาวิชานาฏศิลป์และการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ มรภ.สงขลา โดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์ไพฑูรย์ เข้มแข็ง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปีพุทธศักราช 2564 เป็นผู้ประกอบพิธี วัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีพิธีการไหว้ครูนาฏศิลป์ไทย และเพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที รำลึกถึงพระคุณครู ตลอดจนสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการสร้างเสริมทักษะประสบการณ์ด้านนาฏศิลป์ และเผยแพร่ผลงานของนักศึกษาสาขาวิชานาฏศิลป์และการแสดง มรภ.สงขลา สู่สาธารณชน



ทั้งนี้ พิธีไหว้ครูและครอบครูนาฏศิลป์ ถือเป็นพิธีที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้ที่ศึกษาศาสตร์ทางด้านนาฏศิลป์ เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และระลึกถึงพระคุณครูที่ท่านได้ประสิทธิ์ประสาทวิชา อีกทั้งการจัดพิธีไหว้ครูยังแสดงถึงการนับถือครูตั้งแต่ระดับเทพลงมารวมถึงครูมนุษย์ พิธีการครอบและรับมอบเป็นการยอมรับว่าเป็นผู้ทรงภูมิที่สามารถจะเป็นผู้สืบทอดงานทางด้านนาฏศิลป์ต่อไปได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน พิธีไหว้ครูและครอบครูเป็นพิธีที่เปิดโอกาสให้บุคคลที่ศรัทธาและนับถือในเทพผู้ประสิทธิ์ประสาทวิทยาการต่าง ๆ เข้าร่วมพิธี เพื่อกราบไหว้บูชาและระลึกถึงพระคุณครูได้โดยทั่วหน้า






อนึ่ง “นาฏศิลป์” เป็นศาสตร์ด้านการแสดงสาขาหนึ่งที่เกิดขึ้นแต่ราชสำนัก มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมามิได้ขาด ไม่สามารถค้นพบต้นกำเนิดที่แท้จริงได้ว่าครูคนแรกเป็นมนุษย์คนใด แต่สืบทอดกันมาว่าเกิดแต่เทวดา องค์ที่สำคัญที่สุดคือพระศิวะหรือพระอิศวรที่ทรงแสดงการฟ้อนรำ 108 ท่า และได้มีการบันทึกท่ารำของพระองค์ไว้เป็นตำราการฟ้อนรำที่เรียกกันว่า “ตำรานาฏยศาสตร์” ที่ระบุชื่อผู้แต่งว่า “พระภรตฤาษี” ความผูกพันกับครูตั้งแต่ชั้นเทพจนมาถึงชั้นพราหมณ์และถูกเผยแพร่ไปทั่ว เชื่อกันว่าจากครูฤาษีพราหมณ์สู่ครูมนุษย์ ได้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างเหนียวแน่นมิได้จางหาย ถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่จะต้องทำการไหว้ครู บูชาครู ระลึกถึงพระคุณของครูทั้งหมดที่กล่าวมา เพื่อเป็นพลังยึดเหนี่ยวความเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่เคารพนับถือ กล่อมเกลาเป็นพลังสำคัญในการสืบทอดศิลปะการแสดงให้คงอยู่ตลอดไป






กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าหมายที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต และ เป้าหมายที่ 17 เสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูสภาพหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.skru.ac.th/th/photo/2025081001