

เย็นวันนี้ 17 ก.ค. 68 ที่ โรงพยาบาลระโนด อ.ระโนด จ.สงขลา นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมนายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, และนายกฤชณัทท พลรัตน์ นายอำเภอระโนด นำกระเช้าเยี่ยมและเงินปลอบขวัญมอบให้กำลังใจแก่ นายเจริญ ทองรัตน์ อายุ 65 ปี ผู้ได้บาดเจ็บจากเหตุคนร้าย เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน อุ้มขึ้นรถตู้ไปรุมทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลระวะ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา อาการขณะนี้เเพทย์ผู้ให้การรักษาให้ข้อมูลว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บกระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่ จากการได้รับความกระทบกระเทือน มีเเผลที่นิ้วกลาง และศีรษะ ตอนนี้อาการดีขึ้น ลุกเดินได้มากขึ้น เเต่ยังต้องพักฟื้นต่อไป สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ทางครอบครัวยังคงหวาดกลัวเนื่องด้วยผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พูดคุยสอบถามอาการ ให้กำลังใจครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้คำมั่นว่าตนจะไม่ปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุดพร้อมสั่งกำชับให้ตำรวจและฝ่ายปกครองเข้าดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ก่อนจะลงมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน


นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “หลังได้รับโทรศัพท์จากภรรยาของผู้ได้รับบาดเจ็บ โทรเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ด้วยความเป็นห่วง เมื่อมาถึงสงขลาจึงรีบเดินทางมาเยี่ยม ตั้งใจมาพูดคุยให้กำลังใจ ซึ่งตนเองรู้สึกสลดใจมากและมองว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นจังหวัดที่เจริญแล้ว ยิ่งผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นอดีตพนักงานราชการ ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนวิกลจริต ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะหลังปลดเกษียณผู้เสียหายก็นำครอบครัวทำมาหากิน ขับรถซาเล้งขายของเร่เพื่อเลี้ยงครอบครัว การโดนทำร้ายร่างกายในลักษณะรุมกระทืบ ลากขึ้นรถซึ่งเป็นรถตู้หรู แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ เรื่องนี้ตนไม่ปล่อยไว้แน่นอน ตอนนี้ได้ฝากตำรวจให้เร่งสืบหาความจริงให้ได้…ว่าเป็นรถตู้คันดังกล่าวเป็นรถของใคร ฝากตำรวจและฝ่ายปกครอง เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว นี่ยังดีที่คุณลุงรอดชีวิตมาได้


นายเดชอิศม์ กล่าวต่อว่า ตนในฐานะที่พึ่งรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่หลักในการบำบัดทุกข์บำรงสุขให้ประชาชน ยิ่งเป็นบ้านของตนเอง จะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้โดยเด็ดขาด ขณะที่ภรรยาผู้บาดเจ็บยืนยันว่า…หนึ่งใน ชายฉกรรจ์ 4-5 คนที่ก่อเหตุ เป็นลูกน้องของ ส.ส.ในพื้นที่จริง จึงขอฝากไปถึง ส.ส.คนดังกล่าวว่า ควรมีสำนึกมากกว่าประชาชนทั่วไป พี่น้องประชาชนตากแดดตากฝนเลือกท่านมาเป็นผู้แทน ท่านต้องเป็นหลักให้ประชาชนให้ได้ จะปล่อยให้ลูกน้องมาก่อเหตุแบบนี้ไม่ได้ ส่วนที่ ส.ส.ปฏิเสธว่า…ไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ก็ต้องไปพิสูจน์กันว่ารู้หรือไม่รู้เรื่องอย่างไร



สื่อมวลชนรายหนึ่งถามถึงเรื่อง ส.ส. กรณีเว็บพนัน นายเดชอิศม์ ตอบว่า…เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรู้ว่า เจ้าของเว็บพนันรายนี้ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ตำรวจจากส่วนกลางมาจับ มีการวิ่งเต้นกัน ดังมากจ่ายเงินกันเป็น 100 – 200 ล้าน จนชุดจับกุมต้องกลับคำให้การ ผลสุดท้ายอัยการจังหวัดสงขลาสั่งไม่ฟ้อง ทั้งคดีฟอกเงินและคดีพนันออนไลน์ ขณะที่ตำรวจภาค 9 มีความเห็นตามอัยการเรื่องคดีการพนัน แต่คดีฟอกเงินมีความเห็นแย้ง ทั้งที่พยานหลักฐานทุกอย่างเหมือนกันหมด ส่วนตัวก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมความเห็นของตำรวจภาค 9 ย้อนแย้งกัน คดีการพนันเลยพับไป เหลือแต่คดีฟอกเงินที่ยังอยู่ที่อัยการสูงสุดขณะนี้ แต่ก็มีข่าวหลุดมาอีกว่ามีการวิ่งใช้เงินล้มคดี ก็อยากฝากไปถึงอัยการสูงสุดว่า…อย่าทำร้ายประเทศไปมากกว่านี้ ทุกวันนี้ภาพลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรมไทยก็แย่อยู่แล้ว ฝากถึงอัยการสูงสุด อย่าให้คนด้อยโอกาสเท่านั้นที่ติดคุก คนที่มีโอกาสมีเงินมีทองจะรอดคุกกันหมด ซึ่งตนไม่เห็นด้วย



ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับลุงวัย 65 ตนได้พูดคุยกับ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแล้ว ท่านผู้ว่าฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก แม้ตัวติดภารกิจก็ได้มอบหมายให้ นายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายกฤชณัทท พลรัตน์ นายอำเภอระโนด มาอยู่ดูแลตั้งแต่ทราบเรื่อง ส่วนของตำรวจตนยังมั่นใจว่าผู้รับผิดชอบคดีนี้ เป็นคนดีมีฝีมือ เชื่อว่าไม่เกินวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.68) ทุกอย่างจะกระจ่างทั้งหมดว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นของใคร ผู้ต้องหามีกี่คน เป็นใครบ้าง จะได้นำตัวมาลงโทษให้ได้ แต่ฝากถึงอัยการขออย่าให้ซ้ำรอยคดีการพนันออนไลน์อีก
.