วันจันทร์, 10 พฤศจิกายน 2568

“พิพัฒน์” เล็งปรับรถโดยสารสาธารณะสองชั้นเป็นชั้นเดียว ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ มอบ ขบ. เร่งทำ Guideline Checking Point ให้ผู้ประกอบการเดินรถ พร้อมหารือ สปข. ร่วมกันวางมาตรการเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพี่น้องประชาชน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) ในประเด็นการดัดแปลงรถโดยสารสาธารณะสองชั้น จุด Check point และระเบียบ ข้อบังคับ รวมถึงมาตรการรองรับสำหรับผู้ประกอบการรถ โดยมี นายรัชพงศ์ ชูแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสาโรจน์ สามารถ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายปัญญา ชูพานิช รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และนายจิระเดช ห้วยหงษ์ทอง นายก สปข. พร้อมคณะ เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การประชุมหารือในวันนี้ต้องขอบคุณ สปข. ที่ให้ความสำคัญที่จะช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัยสูงสุดของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการวางมาตรฐานรถโดยสารธารณะสองชั้นให้เป็นไปตามกฎกระทรวง และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพราะการมีรถที่สูง ถ้าวิ่งเส้นทางทั่วไปสามารถวิ่งได้ตามปกติ แต่ถ้าต้องวิ่งขึ้นเขาหรือในเส้นทางชันอาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงจุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ (Checking Point) ที่ควรมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถนำรถเข้าเช็กได้โดยง่ายและไม่เสียเวลาการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำเรื่องการเช็กระดับความเร็วรถจาก GPS และการตรวจสอบสารเสพติดของคนขับรถอย่างเคร่งครัด เพราะความปลอดภัยของประชาชนต้องเกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวหรือนักเรียน

นายชยธรรม์ พรหมศร กล่าวว่า ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย มีปัจจัยสำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ ยานพาหนะและผู้ขับขี่ ในส่วนของยานพาหนะ ขบ. มีการออกมาตรการที่รัดกุมเข้มงวดอยู่แล้ว แต่ในส่วนของผู้ขับขี่ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ความใส่ใจกับสภาพร่างกาย และจำนวนชั่วโมงของผู้ขับรถเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ขอกำชับเรื่องพฤติกรรมของผู้ขับขี่และมาตรการด้านความปลอดภัยบนรถต้องเข้มงวดให้มากยิ่งขึ้น

ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ กล่าวเสริมว่า ขบ. ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยในการขนส่งสาธารณะ ได้ดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย ปัจจุบัน ขบ. มีจุด Checking Point ทั่วประเทศ 28 จุด มีเพียงบางจุดที่อยู่นอกสถานีขนส่ง ซึ่งนับตั้งแต่มีการตั้งจุด Checking Point ในปี 2562 พบเกิดอุบัติเหตุรถโดยสาร 407 ครั้ง และในปี 2568 พบ 173 ครั้ง ซึ่งมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ขบ. อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่เพื่อวางแผนกำหนดจุด Checking Point ใหม่ ให้อยู่นอกสถานีขนส่งเพื่อความสะดวกต่อการเข้าตรวจเช็ก รวมถึงกำลังเร่งจัดทำ Guideline Checking Point เพื่อให้ผู้ประกอบการเดินรถและผู้ขับขี่สามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวกมากขึ้น ส่วนมาตรฐานการปรับเปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะจากสองชั้นเป็นชั้นเดียว ปัจจุบันอยู่ระหว่างกำหนดแนวทางและเงื่อนไข คาดสามารถจัดเตรียมรถต้นแบบเพื่อทดสอบรัศมีวงเลี้ยวและป้ายปัดภายในต้นปี 2569