ผบ.ทบ. กำชับเจ้าหน้าที่สกัดกั้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด ป้องกันผู้เห็นต่างก่อเหตุสร้างสถานการณ์ เน้นทหาร-ตำรวจเป็นที่พึ่งแก่ประชาชนในทุกโอกาส ย้ำการผนึกกำลังทหารไทย-มาเลเซีย คือหัวใจสำคัญในการป้องกันภัยร้ายตามแนวชายแดน

วันนี้ (31 ธันวาคม 2568) เวลา 08.00 น. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงจากกองทัพบก ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ณ ตำบลทุ่งพอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เพื่อรับทราบปัญหาและมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกมิติ โดยมี พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมผู้บังคับบัญชา และคณะฝ่ายอำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์

ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้กำลังพลทบทวนและพัฒนาการปฏิบัติงาน โดยนำข้อผิดพลาดมาแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น พร้อมขอให้หน่วยปรับภารกิจให้สอดคล้องกับศาสนกิจ ประเพณี และวัฒนธรรมในพื้นที่ เน้นปฏิบัติการเชิงรุก ปรับเปลี่ยนเทคนิค และห้ามประมาทโดยเด็ดขาด เพื่อจำกัดเสรีการปฏิบัติของผู้ก่อเหตุรุนแรงและผู้สนับสนุนอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ยังขอให้ทุกภาคส่วนประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดและสอดคล้องกัน โดยเฉพาะทหารและตำรวจต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการถ่ายทอดความรู้ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (อส.จชต.) รวมถึงเน้นย้ำให้สถานีตำรวจภูธรทั้ง 17 สถานี ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ต้องเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อรองรับการส่งมอบภารกิจและการทดแทนกำลังทหารในระยะเปลี่ยนผ่านสู่การบริหารพื้นที่ภายใต้กลไกปกติของทางราชการ

ควบคู่ไปกับการสกัดกั้นภัยแทรกซ้อน ทั้งยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด ตลอดจนการกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงชายแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย โดยเฉพาะความร่วมมือในการต่อต้านการก่อเหตุของกลุ่มผู้เห็นต่าง การลักลอบค้ายาเสพติด และอาชญากรรมข้ามชาติ ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองที่เป็นประโยชน์ ซึ่งกุญแจสำคัญคือการผนึกกำลังความร่วมมือของกองกำลังทั้งสองประเทศในการป้องกันภัยร้ายตามแนวชายแดนร่วมกัน