วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปมอบชุด PPE และหน้ากากอนามัยให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน(1669) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
เพื่อแจกจ่ายให้หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน โดยมีนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว รองนายก อบจ.สงขลา นายประพันธ์ ศรีสุวรรณ ปลัด อบจ.สงขลา นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายก อบจ.สงขลา นางสาวปรินดา ปาลาเร่ เลขานุการนายก อบจ.สงขลา และข้าราชการในสังกัด อบจ.สงขลาให้การต้อนรับ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน (1669) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาอีกด้วย
รมช.มท. กล่าวว่า “วันนี้เป็นการนำชุด PPE และหน้ากากอนามัย มามอบให้กับศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่ดูแลระบบการแพทย์ฉุกเฉินของสงขลาทั้งจังหวัด ฉะนั้นถือว่า หน่วยการแพทย์ฉุกเฉิน1669 เป็นผู้ปฏิบัติที่ต้องเผชิญภัยความเสี่ยงในการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และทำให้บุคลากรเหล่านี้ต้องมีความเสี่ยงในการช่วยเหลือมากกว่าปกติ เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่เราเข้าไปช่วยเหลือนั้นเป็นผู้ที่ได้รับเชื้อหรือไม่อย่างไร ดังนั้นการที่เราจะดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ต้องถือว่าเป็นความสำคัญในระดับต้นๆที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะหากเจ้าหน้าที่ไปรับเชื้อหรือสัมผัสใกล้ชิดโดยไม่มีการป้องกัน หากเจ้าหน้าที่โดนกักตัว หรือโดนงดการปฏิบัติหน้าที่ เราก็จะไม่มีคนมาช่วยเหลือชาวบ้าน ฉะนั้นเมื่อบุคลากรเรามีจำกัด การที่จะรักษาความปลอดภัยในบุคลากรของเราทำให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการที่จะสัมผัสกับบุคคลที่ติดเชื้อ หรือได้รับเชื้อ COVID-19 จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง”
รมช.มท กล่าวต่ออีกว่า “ชุด PPE และหน้ากากอนามัย ที่นำมามอบให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาในวันนี้ ประสงค์ที่จะให้แจกจ่ายไปยังศูนย์ปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัดสงขลา โดยมีชุด PPE จำนวน 100 ชุด และหน้ากากอนามัยจำนวน 4,000 ชิ้นเป็นการสนับสนุนในเบื้องต้น และขอถือโอกาสนี้เรียนเชิญทุกท่านที่มีกำลังทุนทรัพย์ อยากให้ช่วยกันดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของการแพทย์ฉุกเฉินทั้งประเทศ และบุคลากรสาธารณสุข ทุกพื้นที่ ใครอยู่ใกล้พื้นที่ใดก็อยากให้ช่วยกันดูแลพื้นที่นั้น เพราะบุคคลเหล่านี้มีค่อนข้างจำกัด และไม่ทราบว่าสถานการณ์ COVID-19 จะยุติลงเมื่อไหร่ ฉะนั้นการดูแลรักษาบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างดีแล้ว ในการเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จึงต้องทำให้คนกลุ่มนี้มีความปลอดภัย และมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย นี่ัคือสิ่งที่เราจะดูแลความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ต่อไป”