วันที่ 11 พ.ค. 2564. ที่กระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มท. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่หัวเมืองต่างจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาคต่างๆทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี เป็นต้น โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ควบคุมสถานการณ์โดยใช้กฎหมาย ระเบียบต่างๆให้สอดคล้องกับแนวทางศบค.และความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่แต่ละแห่ง ซึ่งอาจมีการประกาศล็อคดาวน์พื้นที่ในแหล่งแพร่ระบาดในจังหวัดได้ ตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ ซึ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นแหล่งคลัสเตอร์ที่แพร่เชื้อ หรือพื้นที่สุ่มเสี่ยง มักเป็นชุมชน หรือหมู่บ้าน ที่มีการจัดกิจกรรมงานตามธรรมเนียมประเพณี เช่น งานบวช งานแต่งงาน จนถึงขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดหลายแห่งได้มีประกาศล็อคดาวน์หรือปิดหมู่บ้าน คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้าเพื่อเป็นการตัดวงจรการแพร่เชื้อโควิด-19 ในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตามก็ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวันของพี่น้องประชาชนโดยทั่วไปอีกด้วย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า “อีกข้อกังวลประการหนึ่ง ที่จะต้องเข้าไปจัดการเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยก็คือในเรื่องการสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ต่างๆที่เป็นด่านหน้าของการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ รวมทั้งผู้ป่วยที่เข้ารับรักษาหรือสังเกตอาการ ตามโรงพยาบาลสนาม และสถานพยาบาลต่างๆนั้นในส่วนนี้ก็เข้าดูแลในเรื่องอาหารการกิน ที่ไม่ได้รับความสะดวกมากนัก โดยตนในฐานะที่กำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนั้น มีบุคลากรในพื้นที่จังหวัด ภูมิภาคทั่วทั้งประเทศ ก็ต้องเข้าไปสนับสนุน ช่วยเหลือดูแลในสิ่งที่สามารถทำได้ ซึ่งในส่วนของการสนับสนุนนี้
ก็ได้สั่งการให้ปภ. ที่มีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์การบรรเทาสาธารณภัย รถประกอบอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน รถผลิตน้ำดื่ม ให้ออกบริการพี่น้องประชาชนในภูมิภาคต่างๆอย่างทั่วถึง โดยให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ เพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงดูแลบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังจุดตรวจคัดกรองระหว่างชุมชน หมู่บ้าน อำเภอในแต่ละจังหวัดที่มีการแพร่ระบาด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และดูแลพี่น้องประชาชนในชุมชน หมู่บ้านที่ถูกปิดห้ามเข้า-ออก ในเรื่องอาหารการกินได้ทั่วถึง ควบคู่ไปกับการดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างดีที่สุด”