โดยมี นายวรพันธุ์ ศรีวรนารถ รองอธิบดีกรมเอเซียตะวันออก และนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการประชุม เพื่อสำรวจพื้นที่และเตรียมการเกี่ยวกับประเด็นด้านสารัตถะ และโลจิสติกส์ต่างๆ กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ณ ที่ทำการด่านศุลกากรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมีคณะเจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศ นายปรีขัย มาละวรรณโณ ที่ปรึกษานายก อบจ.สงขลา นางสาวภพภร ทองคณารักษ์ ผู้อำนวยการกองผังเมือง กองช่าง อบจ.สงขลา ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์สงขลา ด่านศุลกากรสะเดา ตรวจคนเข้าเมืองสงขลา ททท.หาดใหญ่ ศอ.บต. และกรมทางหลวงจังหวัดสงขลาเข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประเด็นการหารือร่วมกัน ในเรื่องของสถานการณ์การค้าชายแดนไทย – มาเลเซีย อุปสรรค และแนวทางในการแก้ไข รวมถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวชายแดนไทย – มาเลเซีย การพัฒนาด่านศุลกากรสะเดา และการค้าชายแดน รวมถึงโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดา – บูกิตกายูฮิตัม และการเตรียมการด้านโลจิสติกส์ สำหรับการเยือนของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้การเดินทางมาเยือนด่านสะเดาร่วมกันในครั้งนี้ เป็นไปตามการหารือของผู้นำทั้งสอง โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เดินทางมาพบหารือ ที่ทำการด่านสะเดา ภายใน 1 เดือนเพื่อติดตามประเด็นต่างๆที่ได้มีการหารือให้มีผลเป็นรูปธรรม ซึ่งในชั้นนี้อยู่ระหว่างการประสานงานหาเวลาสะดวกที่ตรงกัน
ทั้งนี้ นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้กล่าวถึงภารกิจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่ได้รับมอบให้ดำเนินการก่อสร้างถนนและออกแบบการก่อสร้าง ถนนด่านอำเภอสะเดา – เชื่อมด่านบูกิตกายูฮิตัม ของประเทศมาเลเซีย ว่า ภารกิจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา แบ่งเป็น 2 ส่วน เชื่อมด่านระยะทาง 800 กว่าเมตร ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาทแต่เนื่องจากแนวถนนผ่านที่ของ สปก.จึงต้องมีการเจรจาจ่ายค่าอาสินจ่ายค่าเวนคืน ช่วยเหลือที่ดินของประชาชน เพื่อนำที่ดินกลับมาเป็นของรัฐ ไร่ละไม่เกิน 2 ล้านบาท จึงต้องมีการเปลี่ยนแนวถนนเป็นเลาะด่านเข้ามามีระยะทาง 800 เมตรเศษ
ซึ่งการก่อสร้างได้รับงบประมาณจากนายกรัฐมนตรีคนก่อนที่อนุมัติงบประมาณลงมาในส่วนนี้ 63 ล้านบาท ในระยะทาง 500 เมตรเศษ ซึ่งเวลานี้ก็ได้ผู้รับจ้างดำเนินการแล้ว และตามสัญญาการจ้างจะเสร็จในวันที่ 26 กันยายน 2567 แต่อาจจะเสร็จเร็วกว่านี้ประมาณเดือนกรกฎาคม 2567 และส่วนที่เหลือระยะทางอีก 300 เมตร ขณะนี้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว และก็จะรอประชุมร่วมไทย – มาเลเซีย อีกครั้ง ถ้าไม่มีปัญหาอะไรในส่วนของการแก้ไขแบบ ก็จะขอการสนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้ 26 ล้านบาท เพื่อทำถนนระยะทาง 300 เมตร ซึ่งก็จะเป็นถนน 6 ช่องจราจร ขณะนี้ฝ่ายเราก็ออกแบบเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการประชุมกันอีกครั้ง