วันที่ 31 ตุลาคม 2568 พลตรี กรกฏ ภู่โชติ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ประชุม ติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของหน่วย ทั้งยังร่วมหารือถึงปัญหาข้อขัดข้อง โดยมีผู้บังคับหน่วยในพื้นที่เข้าร่วมประชุม
ภายในที่ประชุม รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงในภาค 4 ส่วนหน้าได้มอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานให้แก่หน่วยโดยให้ยึดหลักการปฏิบัติงานตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัดในทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคง และด้านการพัฒนาควบคู่กัน
พร้อมกันนี้ รองทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และคณะฯ ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ในพื้นที่อำเภอ ระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อไปตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจ และติดตามผลการปฎิบัติงาน รับทราบปัญหาข้อขัดข้องในด้านต่างๆ อีกทั้งยังได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานให้แก่หน่วย เพื่อนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำให้มี เจ้าหน้าที่ บูรณาการ การทำงานกับทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมการลงพื้นที่พบปะเสริมสร้างความเข้าใจให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ พร้อมทั้งย้ำว่าการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าที่ โดยยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนต่อการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 กำลังพลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมในครั้งนี้
โดยก่อนเดินทางกลับ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าและคณะฯ ได้เดินทางไป ยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ และประชาชน ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 กรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4506 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ขณะกำลังทำลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟด้วยการเดินเท้าแรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย อาสาสมัครทหารพราน ประคอง นามมี, นาย อิมรอเฮง กาเจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน, นายมะหามะฮะสือนี ลามะทา ในการนี้ได้สอบถามอาการ พร้อมให้กำลังใจและได้มอบกระเช้าพร้อมเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมยืนยันจะดำเนินการนำตัวผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษตามกฏหมายโดยเร็วที่สุด
