วันพฤหัสบดี, 9 ตุลาคม 2568

กลุ่มผู้ก่อเหตุ สร้างสถานการณ์ ก่อกวนในพื้นที่ 3 จชต. มุ่งหวังทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมพหุวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 เกิดเหตุคนร้ายก่อกวน สร้างสถานการณ์ ลอบวางระเบิด เผากล้องวงจรปิด และเผารถตู้โดยสาร ในพื้นที่ จังหวัด ยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส โดยมีรายละเอียดการก่อกวน ดังนี้ 

 เวลาประมาณ 01.20 น. เกิดเหตุคนร้ายสร้างสถานการณ์ก่อกวนเผากล้องวงจรปิดในพื้นที่ อำเภอยะรังและอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รวมจำนวน 5 จุด รายละเอียด ดังนี้ 

จุดที่ 1 ทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณสะพานยือลาปัน หมู่ที่ 4 บ้านต้นมะขาม ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง กล้องวงจรปิด สูญหาย จำนวน 2 ตัว

 จุดที่ 2 เผาทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณหมู่ที่ 4 บ้านต้นมะขาม ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง กล้องวงจรปิดถูกเผาทำลาย จำนวน 2 ตัว

 จุดที่ 3 เผาทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณซอยวัดใจ หมู่ที่ 4 บ้านปูลากาซิง ตำบลกอลำ อำเภอยะรัง กล้องวงจรปิด ถูกเผาทำลาย จำนวน 2 ตัว

 จุดที่ 4 เผาทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณสามแยกมัสยิดบาลากาซิง หมู่ที่ 4 บ้านปูลากาซิง ตำบลกอลำ อำเภอยะรัง กล้องวงจรปิดถูกเผาทำลาย จำนวน 2 ตัว

 เวลาประมาณ 01.20 น. เกิดเหตุคนร้ายสร้างสถานการณ์ก่อกวนเผากล้องวงจรปิดในพื้นที่ อำเภอยะรังและอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี รวมจำนวน 5 จุด รายละเอียด ดังนี้ 

จุดที่ 1 ทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณสะพานยือลาปัน หมู่ที่ 4 บ้านต้นมะขาม ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง กล้องวงจรปิด สูญหาย จำนวน 2 ตัว

 จุดที่ 2 เผาทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณหมู่ที่ 4 บ้านต้นมะขาม ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง กล้องวงจรปิดถูกเผาทำลาย จำนวน 2 ตัว

 จุดที่ 3 เผาทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณซอยวัดใจ หมู่ที่ 4 บ้านปูลากาซิง ตำบลกอลำ อำเภอยะรัง กล้องวงจรปิด ถูกเผาทำลาย จำนวน 2 ตัว

 จุดที่ 4 เผาทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณสามแยกมัสยิดบาลากาซิง หมู่ที่ 4 บ้านปูลากาซิง ตำบลกอลำ อำเภอยะรัง กล้องวงจรปิดถูกเผาทำลาย จำนวน 2 ตัว

 จุดที่ 5 เผาทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบาโง หมู่ที่ 1 ตำบลปานัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี กล้องวงจรปิดถูกเผาทำลาย จำนวน 1 ตัว

 จุดที่ 5 เผาทำลายกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบาโง หมู่ที่ 1 ตำบลปานัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี กล้องวงจรปิดถูกเผาทำลาย จำนวน 1 ตัว

 เวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงรถตู้ โตโยต้าสีเทา ทะเบียน บง 2092 นราธิวาส ของวัดบางปอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ขณะจอดอยู่ภายในโรงจอดรถของวัด โดยคนร้ายได้นำแกลอนที่มีน้ำมันมาราดภายในรถ จากนั้นได้จุดไฟเผา แล้วขับรถจักยายนต์หนีไป พี่น้องประชาชนที่อยู่ภายในวัดจึงได้ช่วยกันดับไฟ

และเวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุคนร้ายก่อกวนสร้างสถานการณ์ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา จำนวน 3 จุด ซึ่งขณะนั้นพี่น้องประชาชนได้ใช้จัดกิจกรรมประเพณีชักพระ มีรายละเอียด ดังนี้ 

 จุดที่ 1 เวลา 21.05 น. เกิดเหตุระเบิด บริเวณกำแพง ประตูเล็กภายในศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ติดกับถนนสิโรรส จากการตรวจสอบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ภาชนะบรรจุขวดอลูมิเนียม

 จุดที่ 2 เวลา 21.20 น. เกิดเหตุระเบิด บริเวณป้ายศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ติดถนนสุขยางค์ จากการตรวจสอบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ไม่ทราบภาชนะบรรจุ

 จุดที่ 3 เวลา 21.40 น. เกิดเหตุระเบิด ในถังขยะข้างกำแพง อยู่ภายในศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา จากการตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุภายในขวดอลูมิเนียม

เบื้องต้นจากเหตุการณ์ก่อกวนดังกล่าวไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับรายละเอียดความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป

 ภายหลังเกิดเหตุ พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยกำลังในพื้นที่ ทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมเข้าควบคุมพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับพี่น้องประชาชน และรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามนำผู้ก่อเหตุเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

โดยเหตุการณ์ก่อกวนสร้างสถานการณ์ครั้งนี้เป็นการกระทำเพียงคนกลุ่มหนึ่ง ที่มุ่งหวังทำลายเศรษฐกิจ ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาน อีกทั้งยังทำลายสังคมพหุวัฒนธรรม พยายามสร้างสังคมเชิงเดี่ยว ให้เกิดความแตกแยกในสังคม ซึ่งประเพณีชักพระนั้น ได้ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นในพื้นที่

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอประณามการกระทำเยี่ยงโจรดังกล่าว ซึ่งส่งผลต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รวมถึงการไม่คำนึงปากท้องของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือวัตถุต้องสงสัยหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามผู้ก่อเหตุ สามารถแจ้งเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร.1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง และย้ำว่า ผู้สนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่พักพิง ซ่อนตัว หรือจัดหาเสบียง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ