วันจันทร์, 7 ตุลาคม 2567

“เศรษฐา-จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ”นำเพื่อไทย ปราศรัยสงขลา คนแห่ร่วมฟังล้นสนาม ชูนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท

“เศรษฐา ทวีสิน,จาตุรนต์ ฉายแสง,ปานปรีย์ พหิทธานุกร,วิสุทธิ์ ไชยณรุณ,ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” พร้อมขุนพลผู้สมัคร ส.ส.สงขลาทั้ง 9 เขต ร่วมเปิดเวทีปราศรัยหาเสียง ท่ามกลางประชาชนแห่ร่วมเข้าฟังกว่า 5,000 คน ชูนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท อายุ 16 ปีขึ้นไปได้ทุกคน ด้าน”อุ๊งอิ๊ง”แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย โฟนอินมายังเวทีปราศรัยอ้อนคนสงขลาเปิดใจรับเพื่อไทย

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 เม.ย.66 ที่สนามวิทยาลัยเทคโนโลยีหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาพรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.สงขลาทั้ง 9 เขต ร่วมเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ท่ามกลางประชาชนเดินทางมาร่วมรับฟังและให้กำลังใจพรรคเพื่อไทย กว่า 5,000 คน และก่อนที่มีการปราศรัยทาง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้โฟนอินมายังเวทีปราศรัยดังกล่าวด้วย พร้อมกับชี้แจงกับประชาชนที่เดินทางมารับฟังการปราศรัยในครั้งนี้ว่า แพทย์ไม่ให้เดินทางไกล เนื่องจากใกล้จะคลอด แต่ใจอยากจะมาพบประชาชนชาวสงขลา จึงขอฝากให้เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ทั้งตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และเลือกพรรคเพื่อไทย

บนเวทีปราศรัยนายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่า วันนี้ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนดีมาก พรรคเพื่อไทย หรือพรรคไทยรักไทย ในสมัยที่ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่ไม่มี ส.ส.ของพรรคในภาคใต้เลย เรามีความตั้งใจที่จะเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศไม่ใช่แค่ภาคใดภาคหนึ่ง เรานับถือและเคารพในการตัดสินใจของประชาชน นโยบายที่ถูกผลักดันออกไปเป็นนโยบายเพื่อคนไทยทุกคนซึ่งเป็นนโยบายไม่ใช่แค่ระดับประเทศแต่เป็นนโยบายระดับโลกในอดีตราคายางพารา กก.ละ 80 บาท แต่ปัจจุบันยางพาราประมาณ 3 กก. 100 บาท การประมงเราเป็นประเทศที่ส่งออกในปริมาณที่สูงประเทศหนึ่งเมื่อ 8-9 ปีที่ผ่านมาได้ชื่อว่าเป็นเจ้าสมุทรของโลก วันนี้หลังจากที่รัฐบาลได้ไปตกลงที่เรียกว่า “ไอยูยู” ทำให้พี่น้องเสียผลประโยชน์มโหราฬ เรือเป็นหมื่นลำออกทะเลได้เป็นพันลำรายได้ลดลงจากการส่งออกปีละกว่า 200,000 ล้านบาท ปัจจุบันอย่าว่าแต่ส่งออกเราต้องนำเข้าสัตว์น้ำ กว่า 100,000 ล้านบาท เพราะรัฐบาลเอาใจอียู จึงต้องนำเข้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศ เพราะผู้นำประเทศไม่เข้าใจบริบทของการค้าขาย รัฐบาลไม่เอาใจใส่ดูแลพี่น้องประชาชน

หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องทุกท่าน และได้เป็นรัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้ทันที วิถีการประมงไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ กลาง หรือรายย่อยต้องกลับมาทำงานได้ทันที และ นระยะยาวจะมีการเจรจากับต่างประเทศควบคู่ไปกับด้านต่างๆ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการท่องเที่ยวซึ่งจังหวัดสงขลามีความพร้อมและมีศักยภาพสูงในการดึงดูดนักท่องเที่ยว จะยกระดับให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้า – ออก สะดวกยิ่งขึ้นให้ทัดเทียมต่างประเทศ จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่ทำรายได้สูงสุดในภาคใต้ มีศักยภาพอีกมากมายที่ยังไม่ได้ค้นพบ จังหวัดสงขลาควรเป็นจุดศูบย์กลางที่รวมเอาจังหวัดข้างเคียงนำไปเสนอให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา อีกเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากกับพี่น้องชาวสงขลา คือ เรื่องยางพารา ถ้าพรรคเพื่อไทยเข้ามาเรามีเรื่องของนวัฒกรรม เรื่องของการตลาด มีการสนับสนุนการแปรรูปยาง เพื่อก่อให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น จะทำให้ราคายางสูงขึ้น นอกเหนือจากนั้นจะผลักดันให้จังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารฮาลาลส่งไปขายทั่วโลก

ส่วนในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น หากเป็นรัฐบาลเราจะทำการสำรวจครอบครัวไหนมีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท ต่อเดือน เราจะเติมให้เต็มทันที ปรับภายใน 4 ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท ปี เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท มาถึงนโยบายหลักเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต่อบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เม็ดเงินจะสะพัด มีการผลิตสินค้า มีการจ้างงาน มีการขายสินค้าได้เพิ่ม เก็บภาษีได้มากขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีทางด้าน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยขอคะแนนเสียงให้ชาวสงขลาช่วยกันเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค

(ดร.อร)ชนัญชิดา ล่วนรักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต3 เบอร์10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ได้เดินทางไปต้อนรับท่านเศรษฐา และคณะของพรรคเพื่อไทยซึ่งได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลาและได้ไปร่วมรับฟังปัญหาจากนักธุรกิจและผู้ประกอบการประมง ในฐานะที่ตัวเองมีความรู้ในเรื่อง ไอยูยู ก็ได้นำเสนอแนะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในที่ประชุมด้วย หลังจากนั้นได้เดิน างไปยังพื้นที่อำเภอบางกล่ำ ซึ่งเป็นตัวแทนของพี่น้องชาวสวนยาง ซึ่งได้พูดคุยในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางพาราสร้างความพึงพอใจให้กับพี่น้องชาวสวนยางมากขึ้น ส่วนในช่วงเย็นถึงค่ำเป็นการเปิดเวทีปราศรัยที่ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีมากๆของจังหวัดสงขลา ที่มีประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่เดินทางมาปราศรัยในครั้งนี้