วันอังคาร, 12 พฤศจิกายน 2567

นิพนธ์ สั่งการ เตรียมพร้อมทุกด้านรับมือพายุไซโคลน หวั่น ปชช.ได้รับผลกระทบรุนแรงช่วงสัปดาห์นี้

วันที่ 5 พ.ค.65 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่กำกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง และทะเลอันดามันตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และจะเคลื่อนขึ้นเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบนในช่วงวันที่ 6-8 พ.ค. 65 จึงขอเตือนคนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมรับมือให้พร้อมเพราะอาจก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรของพี่น้องประชาชน

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้การเตรียมการรับสถานการณ์พายุที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที จึงขอฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปภ. นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เร่งเตรียมความพร้อม ด้วยการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และเร่งตรวจตราอาคารสถานที่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง รวมถึงต้นไม้ตามสถานที่สาธารณะ หากพบมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าซ่อมแซมปรับปรุง ดูแลให้เกิดความปลอดภัย นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ ทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที พร้อมทั้งแจ้งเตือน สื่อสารกับพี่น้องประชาชนได้ทราบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้จังหวัดติดตามสภาพอากาศ แนวโน้มสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร พร้อมเผชิญเหตุ และแจ้งเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
ต้องเตรียมเครื่องมือ ที่พักพิง อาหาร น้ำดื่ม ถุงยังชีพ ส่งให้ถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึง แต่ประชาชน เป็นห่วงบ้าน ห่วงข้าวของเครื่องใช้ จึงต้องการอยู่ใกล้บ้าน ย้ำว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด” นายนิพนธ์กล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง