วันศุกร์, 11 ตุลาคม 2567

“กรณ์” นำ“ชาติพัฒนากล้า”ลงพื้นที่แดนใต้พร้อมเปิดตัว 20ขุนพลว่าที่ผู้สมัครชูนโยบายเศรษฐกิจเด่นจับต้องได้มั่นใจกวาดเก้าอี้ไม่ต่ำกว่า 6 ที่นั่ง

“กรณ์“นำทีมบริหารพร้อมคณะพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคชาติพัฒนากล้าในพื้นที่ภาคใต้ 20 เขตเลือกตั้ง พร้อมเปิดปราศรัยท่ามกลางประชาชนกว่า 1,000 คน

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566  เวลา 14.00 น. ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยทักษิณวิทยาเขตพัทลุง จังหวัดพัทลุง นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค  พล.ต.ธชา จินตวร  ผศ.ดร.เอราวัณทับพลี รองเลขาธิการพรรค นายอรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเปิดตัวว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ จำนวน 20 คน 20 เขตพร้อมเปิดเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนที่เข้ามาร่วมรับฟังและให้กำลังใจ กว่า 1,000 คน

นายกรณ์ จาติกวณิช ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีว่า วันนี้เรามาที่จังหวัดพัทลุงเพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้าในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 20 คน 20 เขตเลือกตั้งของพื้นที่ภาคใต้ และอาจจะมีเพิ่มเติมมากกว่านี้ ซึ่งตอนนี้มีผู้เสนอตัวจะลงสมัครในนามพรรคชาติพัฒนากล้าในพื้นที่ภาคใต้ติดต่อเข้ามาจำนวนมากทุกวัน แต่เราเองก็ไม่ได้มีแนวคิดที่จะส่งผู้สมัครในทุกเขตทั่วประเทศอยู่แล้ว ซึ่งเราเองได้เน้นในเรื่องของคุณภาพตัวผู้สมัครที่มีแนวคิดอุดมการณ์ และนโยบายที่ตรงกับพรรคของเราและมีความตั้งใจที่จะทำงานการเมืองในแนวทางเดียวกัน

ซึ่งในส่วนของว่าที่ผู้สมัครของพรรคเป็นบุคคลที่อยู่กับเรามาแล้วเป็นปีสองปีและได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นเรามีความมั่นใจในตัวว่าที่ผู้สมัครที่จะเปิดตัวในวันนี้เชื่อว่าทุกคนมีโอกาสที่จะชนะในเขตเลือกตั้งของตัวเองได้ โดยในส่วนของภาคใต้ตนได้พูดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ภาคใต้เป็นเป้าหมายสำคัญของพรรคชาติพัฒนากล้าตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นพรรคกล้าเดี่ยวๆ ที่ผ่านมาได้เลือกที่จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดชุมพร สงขลาและนครศรีธรรมราช เพื่อประกาศตัวตนให้กับคนใต้ได้รู้จักและรับรู้แนวความคิดของเราซึ่งได้สะสมประสบการณ์ในทุกๆครั้งที่ได้ลงแข่งขันในสนามเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว มาถึงวันนี้เราจึงมีความพร้อมอย่างมากและได้เสริมกำลังด้วยการเข้าไปจับมือกับพรรคชาติพัฒนาจึงกลายมาเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า  

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวต่อว่า เรามีความโดดเด่นโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถามว่าประเด็นปัญหาของพี่น้องชาวใต้คืออะไร คือเรื่องปากท้อง เรื่องของเศรษฐกิจ ราคาพืชผลทางการเกษตร เรื่องของการท่องเที่ยว เรื่องการส่งเสริมโอกาสเรื่องของคมนาคม ทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องเหล่านี้พรรคของเราได้สะสมผู้รู้ที่มากประสบการณ์ไว้มากที่สุด มากกว่าทุกๆพรรคตนเองมั่นใจ และเป็นเหตุผลที่ทางพรรคได้นำเสนอชุดนโยบายที่แหลมคมและจับต้องได้มากที่สุดชุดหนึ่งเมื่อเทียบกับทุกพรรคการเมือง

ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาการเข้าถึงการกู้ยืมเงินของพี่น้องประชาชนด้วยการเข้าไปรื้อระบบสินเชื่อทางการเงิน ยกเลิกระบบแบล็กลิสต์ หรือเข้าไปลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่เราต่อสู้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เรื่องของการรื้อโครงสร้างพลังงาน รื้อโครงสร้างวิธีการกำหนดราคาน้ำมัน รื้อโครงสร้างวิธีการกำหนดค่าไฟฟ้าหรือจะเป็นการส่งเสริมในเรื่องของสาธารณูปโภค และข้อเสนอของเราที่จะสร้างมอเตอร์เวย์ทุกภาคในประเทศไทย 2,000 กม.ให้แล้วเสร็จภายใน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้ได้สะท้อนถึงความเข้าใจในเชิงลึกว่า ประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศชาติคืออะไร และเราเป็นพรรคที่นำเสนออย่างชัดเจนพรรคหนึ่งว่า ประเทศชาติและประชาชนจะมีรายได้ใหม่อย่างไร เราไม่ได้เสนอแค่วิธีการใช้ภาษีหรือเงินกู้ ซึ่งใครๆก็ทำได้ ที่สำคัญเรานำเสนอแนวยุทธศาสตร์ที่ทำให้ประเทศมีรายได้ใหม่เข้าประเทศมาจากแหล่งไหนบ้าง นั้นคือ นโยบายที่เรียกว่า นโยบาย 7 เฉดสีของเรา

สำหรับในภาคใต้เราต้องยอมรับว่าเราเป็นพรรคใหม่ เราใช้เวลาในการทำงานอย่างหนักในการที่จะทำให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคใต้รู้จักพรรครู้จักตัวผู้สมัคร ว่าพรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคแบบไหน ตัวผู้สมัครคิดอย่างไร เรามีความต่างจากหลายๆพรรคโดยเฉพาะพรรคใหม่ด้วยกัน จะเห็นว่าเราเป็นพรรคที่เปิดโอกาสให้กับคนหน้าใหม่ รุ่นใหม่เข้ามาเสนอตัวเป็นผู้แทนของประชาชน และพร้อมที่จะสู้กับทุกพรรคทุกขนาด เพราะเราเห็นความสำคัญในการที่จะต้องมีพรรคการเมืองที่มีความกล้าเพียงพอที่จะสู้กับระบบทุนผูกขาด เพื่อที่จะสร้างโอกาสที่เป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน และการเลือกตั้งครั้งนี้ในพื้นที่ภาคใต้เรามั่นใจว่าพรรคชาติพัฒนากล้า มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง ส.ส. 5-6 ที่นั่งในภาคใต้อย่างแน่นอน        

โดยตัวว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ จำนวน 20 คน 20 เขต ประกอบด้วย นายธนากร บุญสนิท ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต2 ตามมาด้วย อดีต ส.ส. 3 สมัย ดร.อิสมาแอล  เบญอิบรอฮีม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี เขต2 นายเทมส์ ไกรทัศน์ และนางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภูเก็ต ในส่วนของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สงขลานายนวกัณฑ์ อุบล เขต1 นายจูรี นุ่มแก้ว เขต2 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ เขต3 นายพงศธร สุวรรณรักษา เขต9  นายลิขิต ศรีชาติ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร นายอนุวัตร์ รจิตานนท์ นางพงศ์ศรี นาคเมือง นายสุพจน์ บานเย็น นายวศุธน เรืองขนาบ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.สุราษฎร์ธานี ร.ท.โอฬาร สุตตะนาคา ร.ท.ชัยฤทธิ์ นาทอง นายสุเทพ นาคสันด.ต.นเรศ เกสรินทร์ นายสุรินทร์ เมฆาวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช นายกิตติศักดิ์ ยามาสัน และนายประสิทธิ์ แซ่อึ้ง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สตูล

นายกรณ์ ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีช่วงหนึ่งว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีนโยบายนำหวยใต้ดิน  บ่อนเถื่อน ล็อตเตอรี่ราคาแพง ทุกอย่างที่อยู่นอกระบบ ถึงเวลาแล้วที่เราจะยอมรับความจริงว่าเรื่องเหล่านี้มันมีอยู่ในสังคมไทย บางเรื่องที่เป็นสีดำเรารับไม่ได้ต้องกำจัด เอามานับเป็นธุรกิจไม่ได้ แต่ในเรื่องที่มันเป็นสีเทา เราเอามาไว้ที่สว่างดีกว่าไหมจะได้กำกับได้  เก็บภาษีได้ ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับประเทศ  ชัดเจนคือสิ่งที่เรียกว่า กาสิโนรีสอร์ท คือการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่อาจจะออกใบอนุญาตการมีกาสิโนด้วย

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา  พรรคชาติพัฒนากล้า ทั้ง 4 คน ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจังหวัดสงขลา หลังเสร็จสิ้นการเปิดตัวบนเวทีโดยเริ่มจากว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต1 นายนวกัณฑ์ อุบล กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่อยากฝากพี่น้องชาวสงขลาทุกคนคือพรรคชาติพัฒนากล้าเรามีนโยบายเกี่ยวกับทางด้านเศรษฐกิจภายใต้ชื่อว่า “งานดี มีเงิน ของไม่แพง“หรือโครงสร้างเศรษฐกิจ พรรคของเราเป็นตัวจริงในเรื่องเศรษฐกิจเน้นเรื่องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้น

เขต2 นายจูรี นุ่มแก้ว กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของ ส.ส.ว่า ไม่จำเป็นจะต้องเป็นบทบาทเรื่องราวของทายาททางการเมืองหรือคนที่เป็นนักการเมืองอาชีพ ทุกชนชั้นทุกอาชีพมีสิทธิที่จะเสนอตัวเข้าทำหน้าที่นี้ได้ทั้งหมด เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องของคนที่ทำการเมืองเป็นอาชีพหรือคนที่ใช้การเมืองเป็นอาชีพในการเลี้ยงตัวเอง ทุกคนที่เสนอตัวเข้ามาต่างก็พร้อมที่จะเข้าไปเป็นปากเสียงให้กับพี่น้องประชาชนได้ทั้งสิ้น จึงขอฝากพรรคกล้าและตัวผู้สมัครทุกคนไว้ด้วย

เขต3 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องประชาชนจะได้เลือกคนที่จะเข้าไปทำหน้าที่แทนทุกคน เพราะเชื่อว่าหน้าที่ของผู้ที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เข้ามานั้นคือ เข้ามารับใช้ประชาชนและประชาชนก็คือเจ้านายของผู้แทน อย่าให้ผู้แทนมาเป็นเจ้านายของประชาชน เราพรรคชาติพัฒนากล้ามีความพร้อมทั้งความรู้ความสามารถพร้อมที่จะเข้าไปพัฒนา พร้อมที่จะเอาปัญหาปากท้องของพี่น้องเข้าไปสู่สภาและแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

เขต9 นายพงศธร สุวรรณรักษา กล่าวว่า ตนเองย้ำเสมอว่าวันนี้ที่เสนอตัวเข้ามาคือการสร้างการเมืองของประชาชน ยืนยันตรงกับว่าที่ผู้สมัครของพรรคชาติพัฒนากล้าท่านอื่นๆว่าการเมืองไม่ใช่เป็นเรื่องของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด ตนเองก็เป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีความเสียสละ ไม่ใช่แค่เฉพาะคำพูดแต่อยู่ที่การกระทำ โดยตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมาได้พบเห็นและคลุกคลีกับพี่น้องประชาชน ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นวันนี้ถึงเวลาที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งประเทศ จะต้องเลือกนักการเมืองจากผลงานไม่ใช่เลือกนักการเมืองโดยเงิน “จะเท่าใดก็สุดแล้วแต่ ไม่สามารถซื้อคนใต้ได้“เป็นคำกล่าวที่ตัวเองเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ได้เลือนหายไปในยุคปัจจุบัน และเราจะทำให้คำนี้กลับมายืนยันได้ตรงกันอีกครั้งด้วยการเลือก พรรคชาติพัฒนากล้า เลือกทั้งคนทั้งพรรคเพื่อการพัฒนาประเทศชาติที่ดีขึ้น