วันเสาร์, 27 กรกฎาคม 2567

กฟผ. และคณะวิศวกรรมศาสตร์  ม.อ.  ร่วมลงนาม  MOU  พัฒนาเทคโนโลยีพลังานไฟฟ้าของภาคใต้

10 ส.ค. 2020
769

วันที่  10  สิงหาคม  2563  ณ ห้องประชุมดงยาง  1  คณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตหาดใหญ่  ผศ.ดร.นิวัติ  แก้วประดับ  อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  (ม.อ.)  และนายเริงชัย  คงทอง  รองผู้ว่าการระบบส่ง  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  (กฟผ.)  ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ  (MOU)  โดยตั้งเป้าหมายนำทฤษฎีออกไปประยุกต์ใช้ได้จริง  เพื่อการพัฒนาภาคใต้  พร้อมมุ่งเน้นส่งเสริมงานวิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าของภาคใต้  โดยใช้การวิจัยแก้ไขปัญหาและพัฒนางาน  โดยมี  ผศ.นพ.สุนทร  วงษ์ศิริ  รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม  รศ.ดร.ธนิต  เฉลิมยานนท์  คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์  พร้อมด้วยนายผล  ขวัญนุ้ย  ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้  (กฟผ.)  ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ

ผศ.ดร.นิวัติ  แก้วประดับ  อธิการบดีมหาวิทยาสงขลานครินทร์  กล่าวว่า  “ม.อ.  ยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้  โดย  MOU  ฉบับนี้เป็นครั้งที่  3  ที่  ม.อ.  ได้ทำร่วมกับ  กฟผ.  เพราะมหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานและสถาบันการศึกษาที่มียุทธศาสตร์มุ่งเน้นการทำวิจัยเชิงรุก  และมีความพร้อมในการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก  ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในการสร้างกลุ่มวิจัยเชิงบูรณาการ  เพื่อให้สอดคล้องและสามารถแก้ปัญหาของประเทศ  มุ่งเน้นการสนับสนุนทุนและบริหารจัดการงานวิจัยเชิงบูรณาการ  ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นโครงการทีดีของการส่งเสริมและสนับสนุนกลยุทธ์  ความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกที่อยู่ในระบบวิจัยที่ทำหน้าที่สนับสนุนทุนวิจัย  บริหารงานวิจัย  เพื่อร่วมขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรม  รวมถึงเป็นโอกาสอันดีของการสร้างแรงจูงใจให้นักวิจัยของ  ม.อ.  และ  กฟผ.  ได้สร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน  และเพิ่มขีดความสามารถในการทำวิจัยของบุคลากร  ซึ่งหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ทั้ง  2  หน่วยงาน  จะได้นำผลงานวิจัยต่าง ๆ  ไปประยุกต์ใช้งานให้ตรงกับความต้องการของชุมชนและสังคมในพื้นที่ภาคใต้  สร้างความเข้มแข็งให้กับบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนางานวิจัยให้มีความเป็นเลิศในสาขาที่มีความพร้อม  โดยเฉพาะคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มีศักยภาพของคณาจารย์  ทีมนักวิจัยที่การถ่ายทอดองค์ความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นและสังคมจากการต่อยอดงานวิจัยและนวัตกรรม”

นายเริงชัย  คงทอง  รองผู้ว่าการระบบส่ง  (กฟผ.)  เปิดเผยว่า  “ได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการพัฒนางานด้านการวิจัย  ด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า  โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่และเห็นว่าในพื้นที่ภาคใต้มีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  (ม.อ.)  ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยหลักมีรากฐานในงานด้านวิศวกรรมมาเป็นเวลานาน  มีบุคลากรที่มีความรู้  ความสามารถ  เป็นจำนวนมาก  เหมาะสมที่จะนำความรู้ความสามารถของบุคลากรมาทำการวิจัยในปัญหางานที่เกิดขึ้นในระบบการผลิตและระบบส่งของ  กฟผ.  ในพื้นที่ภาคใต้  เพื่อให้เกิดการพัฒนาเทคโยโลยีด้านพลังงานไฟฟ้ารวมไปถึงการพัฒนาเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ  ที่มีให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุดเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ความมั่นคงในระบบไฟฟ้า  สิ่งแวดล้อม  และสังคมโดยรวม  โดยตั้งแต่ปี  2551  กฟผ.ได้สนับสนุนทุนวิจัยให้แก่  ม.อ.  ไปแล้วรวม  16  โครงการ  เช่น  การทำวิจัยและพัฒนาระบบประชุมสั่งการทางไกลด้วยมัลติมีเดียผ่านเว็บสำหรับสถานีไฟฟ้าแรงสูง  โครงการบ้านปลาปะการังเทียมจากลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าพื้นที่นำร่องจังหวัดปัตตานี  และจังหวัดนราธิวาส  โครงการศึกษาวิจัยการใช้ปะการังเทียมเพื่อบูรณะทรัพยากรชายฝั่งกรณีศึกษาชายฝั่งทะเลอำเภอเทพา  ฯลฯ  นอกจากทุนวิจัยแล้ว  กฟผ.  ยังสนับสนุนเครื่องมือ  อุปกรณ์การเรียนการสอน  รวมไปถึงบุคลากร  และเปิดให้อาจารย์และนักศึกษาสามารถทำวิจัย  เข้าดูงาน  ฝึกงานในโรงไฟฟ้า  และสถานที่ต่าง ๆ  ของ  กฟผ.  เพื่อให้เกิดความรู้เชิงประจักษ์  พร้อมทั้งสนับสนุนกิจกรรมทางวิชาการต่าง ๆ  ของ  ม.อ.  อีกด้วย”

รศ.ดร.ธนิต  เฉลิมยานนท์  คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์  กล่าวเพิ่มเติมว่า  “ที่ผ่านมาคณะวิศวกรรมศาสตร์ดำเนินงานวิจัยร่วมกับ  กฟผ.  พร้อมได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดกิจกรรมทางวิชาการและกิจกรรมที่สร้างประโยชน์กับสังคมท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง  มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนงานวิจัยและศึกษาวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดในระบบการผลิตพลังงานไฟฟ้าและระบบส่งกำลังไฟฟ้าของ  กฟผ.  เป็นการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ  เช่น  การพัฒนาระบบการเก็บเกี่ยวพลังงานไฟฟ้าจากสายส่งเพื่อใช้เป็นพลังงานให้แก่ระบบมอนิเตอร์สายส่ง  การพัฒนาระบบอัจฉริยะสำหรับมอนิเตอร์หม้อแปลงและสถานีไฟฟ้าแรงสูง  เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า  เป็นต้น  โดยการลงนามความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้จึงเป็นความร่วมมือต่อเนื่องของการพัฒนาบุคลากรของทั้ง  2  หน่วยงาน  สร้างโอกาสทางการศึกษาในงานวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าและนำความรู้ด้านวิศวกรรมไปสร้างประโยชน์ให้แก่ทั้ง  2  หน่วยงาน  รวมถึงชุมชน  สิ่งแวดล้อม  และสังคมโดยรวม  สามารถพัฒนาบุคลกรในพื้นที่  เสริมสร้างขีดความสามารถการบูรณาการด้านการวิจัยและพัฒนา  เสริมสร้างองค์ความรู้  แลกเปลี่ยนความรู้  เพิ่มพูนความรู้ที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน  เสริมสร้างให้ทั้งสอบหน่วยงานเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรม  ปฏิบัติการ  ด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป”.